สายเคเบิลทำความร้อนแบบควบคุมตัวเองของกลุ่ม SANTO UFA ส่วนใหญ่ใช้สำหรับการป้องกันท่อและภาชนะที่แข็งตัว แต่ยังสามารถใช้เพื่อรักษากระบวนการให้มีอุณหภูมิสูงถึง 65°C ได้อีกด้วย สายเคเบิลทำความร้อนเหล่าน...
ดูรายละเอียด
การติดตาม Corrent ผลกระทบทางผิวหนัง ระบบ (SECT) หรือที่เรียกว่าระบบทำความร้อนไฟฟ้าแบบ skin effect เป็นเทคโนโลยีการทำความร้อนแบบท่อที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และปรับเปลี่ยนได้ มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในการทำความร้อน สารป้องกันการแข็งตัว และอุณหภูมิของท่อส่งทางไกลต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมการทำงานที่รุนแรง อย่างไรก็ตาม เพื่อให้มั่นใจว่าระบบ SECT จะมีเสถียรภาพในระยะยาว การบำรุงรักษาและการดูแลที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งจำเป็น
1. ตรวจสอบสถานะการทำงานของระบบอย่างสม่ำเสมอ
ประการแรก ควรตรวจสอบสถานะการทำงานของระบบ SECT อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบว่าสภาวะความร้อน ความต้านทานของฉนวน และความต้านทานต่อสายดินของสายเคเบิลทำความร้อนเป็นไปตามข้อกำหนดหรือไม่ อุณหภูมิจะถูกตรวจสอบแบบเรียลไทม์ผ่านเซ็นเซอร์อุณหภูมิและกล่องควบคุมอัจฉริยะเพื่อให้แน่ใจว่าระบบทำงานภายในช่วงที่ตั้งไว้และหลีกเลี่ยงความร้อนสูงเกินไปหรือร้อนเกินไป
2. รักษาฉนวนของสายเคเบิลทำความร้อน
ประสิทธิภาพของฉนวนของสายเคเบิลทำความร้อนเป็นการรับประกันที่สำคัญสำหรับการทำงานที่ปลอดภัยของระบบ ควรตรวจสอบชั้นฉนวนของสายเคเบิลเป็นประจำเพื่อดูว่ามีสภาพสมบูรณ์ เสียหาย หรือมีอายุหรือไม่ หากพบว่าชั้นฉนวนเสียหายควรเปลี่ยนใหม่ทันเวลาเพื่อป้องกันสายไฟลัดวงจรหรือรั่วซึม ในเวลาเดียวกัน รักษาสภาพแวดล้อมรอบๆ สายเคเบิลให้สะอาด เพื่อป้องกันฝุ่น ความชื้น และสิ่งสกปรกอื่นๆ จากการทำลายชั้นฉนวน
3.ตรวจสอบระบบสายดิน
ระบบ SECT กำหนดให้ท่อแช่ต้องต่อสายดินอย่างปลอดภัยทุก ๆ กิโลเมตร และความต้านทานต่อสายดินไม่เกิน 4Ω ดังนั้นควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของระบบสายดินอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้แน่ใจว่าค่าความต้านทานต่อสายดินอยู่ในช่วงที่กำหนด การต่อสายดินที่ไม่ดีอาจทำให้ระบบมีไฟฟ้าเข้า ซึ่งเพิ่มอันตรายด้านความปลอดภัย
4.ดูแลรักษากล่องควบคุม
กล่องควบคุมเป็นองค์ประกอบหลักของระบบ SECT และมีหน้าที่รับผิดชอบในการควบคุมและปกป้องระบบ ควรตรวจสอบวงจร สวิตช์ และอุปกรณ์ป้องกันในกล่องควบคุมเป็นประจำเพื่อดูว่าทำงานปกติหรือไม่ หากพบข้อบกพร่องหรือความผิดปกติควรซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ให้ทันเวลา ขณะเดียวกัน ควรรักษาความสะอาดภายในกล่องควบคุมเพื่อป้องกันฝุ่น ความชื้น และปัจจัยอื่นๆ ไม่ให้ส่งผลต่อประสิทธิภาพของกล่องควบคุม
5. จัดการข้อผิดพลาดและสัญญาณเตือนอย่างทันท่วงที
โดยทั่วไประบบ SECT จะติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร กระแสเกิน อุณหภูมิสูงเกิน และอุปกรณ์ป้องกันอื่นๆ รวมถึงฟังก์ชันการปรับอุณหภูมิอัตโนมัติ เมื่อระบบเกิดข้อผิดพลาดหรือสัญญาณเตือน ควรระบุสาเหตุทันทีและควรดำเนินมาตรการเพื่อจัดการกับปัญหาดังกล่าว สำหรับจุดที่เกิดข้อบกพร่องควรค้นหาและซ่อมแซมโดยเร็วที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงการขยายตัวของข้อบกพร่องและส่งผลต่อการทำงานของทั้งระบบ
6. ใส่ใจกับการสร้างมาตรฐานในการก่อสร้างและบำรุงรักษา
ในระหว่างการก่อสร้างและบำรุงรักษาระบบ SECT ควรปฏิบัติตามข้อกำหนดและมาตรฐานที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ตัวอย่างเช่น เมื่อวางสายเคเบิลทำความร้อน ควรหลีกเลี่ยงการกระแทกด้วยแรงดันสูงเพื่อป้องกันความเสียหายต่อโครงสร้างสายเคเบิล เมื่อเชื่อมท่อแช่และท่อทำความร้อนควรมั่นใจคุณภาพการเชื่อมเพื่อป้องกันการรั่วไหลหรือการรั่วไหล ในเวลาเดียวกันในระหว่างขั้นตอนการบำรุงรักษาควรสวมอุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสมเพื่อความปลอดภัยของบุคลากร
7. เสริมสร้างการฝึกอบรมบุคลากรและความตระหนักด้านความปลอดภัย
สุดท้ายนี้ การฝึกอบรมผู้ปฏิบัติงานระบบ SECT และบุคลากรซ่อมบำรุงควรได้รับการเสริมสร้างให้เข้มแข็งเพื่อพัฒนาทักษะทางวิชาชีพและความตระหนักรู้ด้านความปลอดภัย ผู้ปฏิบัติงานสามารถเข้าใจหลักการ ประสิทธิภาพ วิธีการทำงาน และข้อกำหนดในการบำรุงรักษาของระบบผ่านการฝึกอบรม เพื่อให้มั่นใจว่าระบบสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยและเสถียร ในขณะเดียวกันก็เสริมสร้างความตระหนักรู้ด้านความปลอดภัยเพื่อปรับปรุงความตระหนักด้านความปลอดภัยและความสามารถในการจัดการเหตุฉุกเฉินของผู้ปฏิบัติงาน